การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

การตรวจหาโรคซิฟิลิส (Syphilis) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ใช่แค่การต้องมีเพศสัมพันธ์แล้วจะติดโรคนี้ได้เท่านั้น แต่เชื้อยังสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ผ่านการสัมผัส, แผลติดเชื้อ, การจูบ หรือการติดต่อจากแม่สู่ลูก โดยวิธีตรวจหาการติดเชื้อที่พบบ่อยคือการตรวจเลือดเพื่อหาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ Treponema pallidum แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ การตรวจแบบไม่เจาะจง (nontreponemal tests) และการตรวจแบบเจาะจง (treponemal tests)

ข้อบ่งชี้การตรวจ Syphilis

การวินิจฉัยซิฟิลิสจะเริ่มต้นด้วยการสอบถามประวัติและการตรวจร่างกาย รวมถึงการสอบถามเรื่องเพศสัมพันธ์และพฤติกรรมเสี่ยง ต่อมาแพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อซิฟิลิส ซึ่งมีทั้งการตรวจหาแอนติบอดีที่เกิดจากการติดเชื้อซิฟิลิสและการตรวจหาเชื้อโดยตรง สำหรับการตรวจแบบไม่เจาะจง เช่น การตรวจ VDRL, RPR การตรวจแบบเจาะจง เช่น การตรวจ FTA-ABS, TP-PA

ค่าปกติของการตรวจ Syphilis

ค่าปกติในการตรวจแบบ VDRL และ RPR ค่าปกติคือการที่ผลตรวจออกมาเป็นลบ หมายถึงไม่มีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อที่เป็นสาเหตุของซิฟิลิส ถ้าผลตรวจเป็นบวก (positive) จำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผล ในการตรวจแบบเจาะจง เช่น การตรวจ FTA-ABS และ TP-PA ค่าปกติคือผลตรวจเป็นลบ หมายถึงไม่มีการติดเชื้อซิฟิลิส ถ้าผลตรวจเป็นบวก (positive) หมายถึงมีการติดเชื้อซิฟิลิสหรือเคยติดเชื้อมาก่อน